ในฐานะเจ้าบ้าน 4 แชมป์ของไทยและทีมของพวกเขา กำลังเตรียมความพร้อมอย่างดีที่สุด สำหรับการแข่งขันที่จะ มาถึงในราว 2 เดือนข้างหน้า โดยพวกเขาต่างรู้สึกในทิศทางเดียวกันว่า การครองถ้วยพระราชทานคิงส์คัพฯ เป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิต โดยเฉพาะในฐานะที่เป็นคนไทย และในปีนี้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันชิงชนะเลิศ ก็ตรงกับวันเฉลิมพระชนพรรณษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พอดี แน่นอนมันหมายถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งต้องจดจำไปตลอดชีวิตในการนักกีฬาอาชีพ ถ้าพวกเขาสามารถชนะ

นอกจากนั้นการใช้ “ระบบเวิลด์คัพกรังด์ปรีซ์” ทำให้ประเทศไทยก็จะต้องทำการคัดเลือก และส่งนักกีฬาลงแข่ง ได้เพียง 4 คนต่อรุ่น ในรุ่นโปรทั้งหมด เหมือนกับทุกชาติ นั้นหมายถึงความที่ไม่มีใครเสียเปรียบใคร และเป็นมาตรฐานเหมือนกีฬาสากลอื่นๆ ซึ่งถ้านักแข่งไทยชนะ ก็เท่ากับเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบจริงๆ

สำหรับ วีระพงษ์ มณีชม ทีมฟลามิงโก้ เป็นดาวรุ่ง และแชมป์ในรุ่นโปรเจ็ตสกียืนและฟรีสไตล์์ โชคอุทิศ โมลี ทีมฟลามิงโก้ เป็นแชมป์ในรุ่นโปรสปอร์ต นอกจากนั้น ยังผ่านการคัดเลือกในรุ่น Runabout 800 ซีซี และ 1600 ซีซี ในฐานะรองแชมป์ด้วย ศุภเดช ธารใส ทีมสิงห์ พีทีที แชมป์รุ่นโปรเจ็ตสกีนั่ง 800 ซีซี และ เอกชล กิ่งชาญศิลป์ แชมป์ประเทศไทย ในรุ่นโปรเจ็ตสกีนั่งโอเพ่น ซึ่งพวกเขารอให้ทุกคนมาทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม